รูขุมขนกว้าง ปัญหาที่มีทางออก

   สาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวดูไม่เรียบเนียน ไม่ต้องกลุ้มอกกลุ้มใจไป เพราะปัจจุบันมีเครื่องสำอางดีๆ และเทคนิคใหม่ๆ ออกมาเยอะแยะมากมาย ซึ่งก็ล้วนแต่ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น และลดขนาดรูขุมขนให้เล็กลงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยว่า มีลักษณะผิวแต่กำเนิด (Characteristic of Skin) เป็นอย่างไร

   อันที่จริงรูขุมขนเป็นสิ่งที่ทุกคนมีติดตัวมาแต่กำเนิดอยู่แล้ว โดยเฉพาะบนผิวหน้าที่มีขนอ่อนๆ กระจายอยู่ทั่วไป แต่เนื่องจากเส้นขนมีขนาดเล็กและบางมาก จนทำให้มองดูเผินๆ จะเหมือนกับไม่มีเส้นขนอยู่บนใบหน้าเลย ส่วนขนาดของรูขุมขนในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป ตั้งแต่ขนาดเล็กมากๆ จนแทบมองไม่เห็น ไปจนกระทั่งขนาดใหญ่ที่ทำให้ผิวดูขรุขระไม่เรียบเนียน

   หน้าที่ของรูขุมขนก็คือเป็นทางระบายออกของน้ำมันที่ถูกผลิตขึ้นจากต่อมไขมัน ภายใต้ชั้นผิวหนังที่เรียกว่า ซีบั้ม (Sebum) น้ำมันนี้มีประโยชน์ต่อผิว เพราะถือว่าเป็นเสมือนมอยซ์เจอไรเซอร์ตามธรรมชาติที่ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงช่วยคงสภาพความเป็นกรดด่าง (PH Balance) ให้กับผิว ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ในผู้ที่ผิวมันแสดงว่าต่อมไขมันทำงานมาก ผลิตน้ำมันออกมาเยอะ รูขุมขนจึงขยายขนาดตามไปด้วย เราจึงมักพบปัญหารูขุมขนกว้างในผู้ที่มีผิวมันเสมอ ส่วนผู้ที่มีผิวแห้งแต่รูขุมขนกว้าง อาจหมายถึงผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย และขาดความกระชับซึ่งมักจะเกิดเมื่ออายุมากขึ้น

   อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นก็คือ การระคายเคืองที่อาจเกิดจากการคุ้ยแคะแกะเกาเวลาที่เป็นสิว การขัดถูผิวหน้าแรงๆ เป็นประจำ เช่น การสครับผิวที่รุนแรง และบ่อยครั้งเกินความจำเป็น ซึ่งไม่ว่ารูขุมขนกว้างจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ตาม การดูแลผิวด้วยเครื่องสำอาง หรือทรีทเมนต์ต่างๆ นั้น จะช่วยได้ก็เพียงแค่ลดขนาดรูขุมขนให้ดูเล็กลง แต่ไม่อาจจะทำให้หายวับไปกับตาได้ เพราฉะนั้นการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะหากเราละเลย หรือขาดการดูแลผิว รูขุมขนก็สามารถกลับมาขยายกว้างได้อีกแน่นอน

   ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยกระชับรูขุมขนได้ มักจะมีส่วนผสมของ ซาลิไซลิกแอซิด (Sallcylic Acid) หรือ บีเอชเอ (BHA) เนื่องจากสารนี้มีคุณสมบัติช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และลดการอุดตันที่อาจเกิดขึ้นภายในรูขุมขนอันเป็นสาเหตุของสิวอุดตันและรูขุมขนกว้างได้ สารสำคัญอีกชนิดที่ทำงานคล้ายกับบีเอชเอ คือ กรดผลไม้ หรือ (AHA) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะสารชนิดนี้ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวได้เหมือนกัน และยังมีส่วนช่วยให้ผิวกระชับ นุ่มนวล และกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย

   ส่วนสารสกัดจากเปลือกไม้อีแนนเชีย (Enantia Chlorantha Extract) มักจะถูกนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว และโทนเนอร์ปรับสภาพผิว เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยลดความมันส่วนเกินและกระชับรูขุมขน ในขณะที่ สารสกัดจากสาหร่ายสไปรูลิน่า (Spirulina Extract) ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น คืนความกระชับให้ผิว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรูขุมขนกว้างขึ้นตามวัย และผิวที่เสื่อมสภาพลง

   ขั้นตอนการดูแลผิวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง

1.  เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจดทุกครั้ง เพราะจะช่วยลดการอุดตันของน้ำมัน สิ่งสกปรก และเมคอัพที่ตกค้างอยู่บนผิวหน้าได้

2.  ผู้ที่มีผิวมันและเป็นสิวง่าย ควรใช้โฟมหรือเจลล้างหน้าล้างทำความสะอาดผิวอีกครั้ง หลังจากเช็ดเครื่องสำอางออกหมดแล้ว

3.  เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพผิวที่มีส่วนผสมช่วยกระชับรูขุมขน เทใส่สำลีให้ชุ่ม เช็ดเบาๆ จากกลางหน้าออกด้านข้าง

4.  บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตันในรูขุมขน

5.  ทาผลิตภัณฑ์กันแดดทุกวันในตอนเช้า เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ

6.  มาสก์หน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ คาโอลิน (Kaolin) ช่วยดูดซับสิ่งสกปรก และสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก สัปดาห์ละครั้ง

   นอกจากการดูแลผิวตามขั้นตอนดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยอำพรางรูขุมขนให้ดูจางลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว นั่นก็คือผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเมคอัพ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เมคอัพเบสอย่าง บีบีครีม (BB Cream) ที่กำลังฮอตฮิตในหมู่วัยรุ่น วัยทีน ซึ่งมีส่วนช่วยทั้งการอำพรางรอยแดง รอยดำจากสิว ลดเลือนขนาดรูขุมขน พร้อมควบคุมความมันส่วนเกิน หรือการเลือกใช้ครีมรองพื้นที่มีเทคโนโลยีการกระจายแสง ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสเรียบเนียนขึ้น

   แต่ถ้าหากคุณเป็นคนใจร้อน และอยากเห็นผลแบบรวดเร็วทันใจ ขอแนะนำให้ลองการทำทรีทเมนต์ด้วยการใช้เลเซอร์ เดี๋ยวนี้มีเลเซอร์รุ่นใหม่ๆ ออกมา ใช้เวลาทำเพียงครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่เจ็บ และไม่มีแผลหลังการทำทรีทเมนต์ด้วย สามารถแต่งหน้าและไปทำธุระอื่นต่อได้ทันที ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าการใช้เครื่องสำอาง แต่ก็คุ้มค่าน่าลองทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเอาไว้พิจารณา

สวยเนียนใส ตลอดวัน

แป้งทาหน้า ไม่ว่าจะเป็นแบบผสมรองพื้น หรือแป้งฝุ่นธรรมดา หากต้องเติมซ้ำๆ ระหว่างวัน อาจกลายเป็นตัวการที่ทำให้คุณดูมีอายุได้ เพราะการทาแป้งเยอะๆ จะทำให้แป้งหนา มองหน้าแล้วคล้ายเป็นการพอกหน้า หรือสวมหน้ากากไปได้
ระหว่างวัน ตบแป้งเฉพาะบริเวณที่มีความมัน 3 จุด คือ จมูก หน้าผาก และคาง ก็พอแล้ว ส่วนผิวบริเวณอื่น เช่น แก้ม ใต้ตา ปล่อยให้ดูมันวาวเพียงนิดหน่อยก็ดูเป็นธรรมชาติดี
นอกจากนี้ แผ่นฟิล์มซับมัน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่นำมากดซับความมันบนใบหน้าออก อาจจะไม่ต้องตบแป้งตามทุกครั้งก็ได้

ผิวหน้าเป็นสิว จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างไร

     สำหรับผู้ที่มีสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิวเสี้ยน สิ่งที่ต้องห้ามอย่างเด็ดขาด ก็คือ การบีบสิว การขัดหน้าและนวดหน้า เนื่องจากจะไปรบกวนผิว และทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบมากขึ้น ส่วนการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิว เราควรจะทราบสาเหตุของการเกิดสิวก่อน
สิวเกิดจาก
-     การอุดตันของรูขุมขน
-     ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่และผลิตไขมันออกมามาก
-     การอักเสบ
-     การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
หลักการดูแลผิวที่เป็นสิว
1.    ป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA , BHA , และสารที่มีอนุพันธ์ของวิตามินเอ ซึ่งการใช้สารดังกล่าว ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์

2.   ลดการอักเสบ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Triclosan และ Tree Oil นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวก็มีความสำคัญ คือควรเลือกใช้ชนิดที่ไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า ส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและครีมกันแดด ควรเลือกใช้ชนิดโลชั่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม และมีค่า SPF สูงๆ อาจกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นได้ ทั้งนี้ ควรใช้ครีมรองพื้นเท่าที่จำเป็น และต้องล้างทำความสะอาดให้หมด แป้งที่เหมาะสำหรับผิวหน้าที่เป็นสิว คือ แป้งฝุ่น หรือแป้งอัดแข็งที่ไม่ผสมรองพื้น

3.    ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขั้นตอนนี้มักอยู่ในความดูแลแพทย์ เพราะต้องใช้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานหรือชนิดทา

4.    ลดการทำงานของต่อมไขมัน ขั้นตอนนี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เช่นกัน จะมีการใช้ยากลุ่มกรด วิตามินเอทั้งชนิดรับประทานและชนิดทา ร่วมกับการใช้ยาเบนโซอิลเปอร์ออกไซต์ ในช่วงแรกอาการอาจจะแย่ลงกว่าเดิม จะเริ่มเห็นผลการรักษาได้ภายใน 3 – 4 สัปดาห์ และต้องใช้ยาต่อเนื่องไปอย่างน้อย 12 สัปดาห์

สิวสามารถรักษาให้หายได้ แต่ ...สิวอาจเกิดขึ้นมาใหม่ได้อีก